Image

“เศรษฐกิจสหรัฐยังอยู่ในโซนแข็งแกร่งจากตัวเลข PMI ต่างชาติยังไม่ซื้อหุ้นไทย”

💚สวัสดี วันพฤหัสบดี ที่ 7 กันยายน 2566 “เศรษฐกิจสหรัฐยังอยู่ในโซนแข็งแกร่งจากตัวเลข PMI ต่างชาติยังไม่ซื้อหุ้นไทย” 💚

📈 USD เมื่อคืนได้มีประกาศตัวเลข ISM PMI ภาคการบริการสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 54.5 จุด ดีกว่าที่ตลาดคาด และการจ้างงานต่างก็ปรับตัวขึ้นพอสมควร ซึ่งความกังวลต่อแนวโน้มการเดินหน้าใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดของ FED

📉THB สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่า โมเมนตัมฝั่งอ่อนค่าของเงินบาทยังคงมีอยู่ ซึ่งหลังจากที่เงินบาทได้อ่อนค่าทะลุโซนแนวต้านสำคัญ 35.50 บาทต่อดอลลาร์ เราประเมินว่า เงินบาทก็มีโอกาสอ่อนค่าต่อทดสอบจุดสูงสุดก่อนหน้าแถว 35.60 บาทต่อดอลลาร์ แต่จากการประเมินแรงขายเงินดอลลาร์ของผู้ส่งออกที่น่าจะทยอยขายเงินดอลลาร์ไปสมควรแล้วในวันก่อนหน้า ทำให้มีความเสี่ยงที่เงินบาทอาจอ่อนค่าทะลุ 35.60 บาทต่อดอลลาร์ ไปทดสอบโซนสำคัญ 35.75 บาทต่อดอลลาร์ได้ไม่ยาก เนื่องจาก เงินดอลลาร์อาจยังพอได้แรงหนุนจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อาจยังไม่ทำให้ผู้เล่นในตลาดปรับลดโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดได้ในเร็วนี้ (คาดว่าปัจจัยสำคัญ คือ อัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า) นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ก็อาจยังได้แรงหนุนจากความต้องการถือสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงตลาดการเงินผันผวนและอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง และนักลงทุนต่างชาติยังไม่รีบที่จะเข้าซื้อสินทรัพย์ไทยเนื่องด้วยนโยบายการเงินที่ยังไม่ชัดเจน

💶 EUR ดัชนี stoxx600 ปรับตัวลงต่อเนื่อง -0.57% กดดันโดยความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจยุโรปชะลอตัวลงหนัก ตามรายงานข้อมูลเศรษฐกิจในระยะนี้ที่ออกมาแย่กว่าคาด นอกจากนี้ ความกังวลต่อแนวโน้มการฟื้นตัวเศรษฐกิจจีนยังคงส่งผลให้หุ้นกลุ่มสินค้าแบรนด์เนมต่างปรับตัวลดลงต่อ (LVMH -3.6%) ทั้งนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังพอได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นบ้างของหุ้นกลุ่มพลังงาน (Shell +0.8%) ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตาม ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) หลังล่าสุด ผู้เล่นในตลาดมองว่า ECB มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกเพียง 1 ครั้ง เนื่องจากภาพเศรษฐกิจยุโรปมีแนวโน้มชะลอตัวลงมากขึ้น ทำให้มีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจยุโรปอาจเข้าสู่ภาวะ Stagflation ได้

🌏 ในฝั่งตลาดบอนด์ ความกังวลแนวโน้มการเดินหน้าใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดของเฟด หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ และทิศทางราคาน้ำมันดิบล่าสุด อาจทำให้อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลงช้ากว่าคาด ยังคงส่งผลให้ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องใกล้ระดับ 4.30% อีกครั้ง ซึ่งมี Risk Reward ratio ที่น่าสนใจ ในการเข้าซื้อ Long term Bond 💹 ทางฝั่งเอเชีย รายงานยอดการส่งออก และยอดการนำเข้า ของจีนในเดือนสิงหาคม ก็จะเป็นอีกปัจจัยที่ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่งจะส่งผลต่อภูมิภาค

📈📉มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.50-35.70 บาท/ดอลลาร์